
🌄 เดินทางสะดวก ปลอดภัย เช่ารถไปเขาคิชกุฏ ราคาประหยัด
สายบุญห้ามพลาด! เดินทางไปกราบรอยพระพุทธบาท “เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี” แบบสบายใจ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง ด้วยบริการ เช่ารถพร้อมคนขับมืออาชีพ ราคาคุ้มค่า ไม่ต้องเหนื่อยขับเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องการขึ้นเขาหรือหาที่จอด
เช่ารถไปเขาคิชกุฏ ราคาประหยัด..."จองง่าย ปลอดภัย!"
- 🚐 เช่ารถตู้ไปเขาคิชกุฏ ราคาเท่าไหร่?
- 🚛 ไปเขาคิชกุฏ ต้องใช้รถแบบไหน?
- 🛕 รายละเอียดบริการ: รถตู้ไปเขาคิชกุฏ จากกรุงเทพฯ (ไป–กลับ)
- 🏞 เปิดเขาคิชกุฏ ปี 2568 (2025) – เช็คให้ชัวร์ก่อนจองรถ!
- 🚐✨ บริการรถรับ–ส่งสายบุญ เขาคิชกุฏ + เที่ยวต่อจันทบุรี (One Day Trip / เหมาวัน / ค้างคืน)
- 🌿 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เขาคิชกุฏ จังหวัดจันทบุรี
- 🏞️ ขึ้นเขาคิชกุฏปีนี้ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
🚐 เช่ารถตู้ไปเขาคิชกุฏ ราคาเท่าไหร่?
ราคาต่อคน (จอยกรุ๊ป)
650 บาท/คน — รถตู้ไป–กลับเขาคิชฌกุฏ (จอยกรุ๊ป
เหมาคัน
หากสะดวกแบบเหมาคัน (8–10 ที่นั่ง) ราคาสบายกระเป๋า:
6,300 บาท/คัน – รวมประกันเดินทางทุน 1 ล้านบาท/คน
รายละเอียดเพิ่มเติม
ประเภท | ราคาประมาณ | สิ่งที่รวม |
---|---|---|
จอยกรุ๊ป (รถตู้) | 650 บาท/คน | รถตู้ไป–กลับ |
เหมากลุ่ม | 6,300 บาท/คัน | รถตู้ 8–10 ที่นั่ง + ประกันเดินทาง |
หมายเหตุ: ราคายังไม่รวมค่าน้ำมันขึ้นภูเขา (ประมาณ 210 บาท/คน) และค่าเข้าอุทยาน 40 บาท/คน (ตามข้อมูลบางรายการ)
🚛 ไปเขาคิชกุฏ ต้องใช้รถแบบไหน?
🚐 1. รถตู้ VIP พร้อมคนขับ (เหมาะที่สุด)
ข้อดี: นั่งสบาย แอร์เย็น พื้นที่กว้าง นอนได้ เดินทางหมู่คณะได้ถึง 8–10 คน
เหมาะสำหรับ: ครอบครัว กลุ่มสายบุญ กลุ่มเพื่อน หรือคณะวัด
มีบริการ: เหมาจากจุดเริ่มต้นถึงทางขึ้นเขา (แล้วเปลี่ยนเป็นรถ 4×4 ของทางวัด)
✅ แนะนำ สำหรับไป–กลับวันเดียว หรือมีแผนเที่ยวต่อจันทบุรี
🚙 2. รถ SUV หรือรถเก๋ง พร้อมคนขับ
ข้อดี: คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับกลุ่มเล็ก 1–4 คน
เหมาะสำหรับ: นักเดินทางแบบคู่รัก กลุ่มเล็ก ผู้สูงอายุที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
ข้อควรระวัง: ไม่สามารถขับขึ้นเขาเองได้ ต้องจอดที่จุดบริการแล้วต่อรถ 4×4 ของวัดขึ้นเขาเช่นกัน
🚛 3. รถกระบะดัดแปลง / รถขนส่งของ
เหมาะสำหรับ: กลุ่มที่ต้องการบรรทุกของ หรือไปถวายของขนาดใหญ่ เช่น องค์พระ, สังฆทาน, เสาเสมาธรรมจักร ฯลฯ
ข้อดี: ทนต่อทางวิบากและสามารถบรรทุกได้เยอะ
อาจมี: แรงงานช่วยยกของร่วมบริการ
🚙 4. รถ 4×4 หรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (ของทางวัด)
ใช้เฉพาะ: ช่วงสุดท้าย “จากจุดจอดไปยังยอดเขา”
ไม่สามารถขับขึ้นเองได้: นักท่องเที่ยวต้องใช้บริการรถทางการของวัดเท่านั้น โดยเสียค่าบริการแยกต่างหาก (โดยประมาณ 200–250 บาท/คน)
🔖 ข้อมูลเสริม
ช่วงเปิดเขาคิชฌกูฏ: ประมาณเดือน กุมภาพันธ์ – เมษายน ของทุกปี
เวลารถขึ้นเขา: มักเปิดตั้งแต่ ตี 3 – 5 โมงเย็น (โปรดเช็กปีต่อปี)
เส้นทาง: กรุงเทพฯ – จันทบุรี ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 4–5 ชม.
✅ สรุป: ต้องใช้รถแบบไหน?
กลุ่มเดินทาง | ประเภทรถแนะนำ | เหมาะกับ |
---|---|---|
1–4 คน | รถเก๋ง / SUV พร้อมคนขับ | ส่วนตัว ประหยัด |
5–10 คน | รถตู้ VIP พร้อมคนขับ | หมู่คณะ สายบุญ |
ขนของเยอะ | รถกระบะ / รถบรรทุกพร้อมแรงงาน | ขนของทำบุญ |
ช่วงขึ้นเขา | รถ 4x4 เฉพาะทาง (ของวัด) | ขึ้น–ลงภูเขา |
🛕 รายละเอียดบริการ: รถตู้ไปเขาคิชกุฏ จากกรุงเทพฯ (ไป–กลับ)
บริการรถตู้ VIP 9–12 ที่นั่ง พร้อมคนขับ เดินทางจากกรุงเทพฯ (ทุกเขต/ทุกที่นัดรับ) ไปยัง เขาคิชกุฏ จังหวัดจันทบุรี เพื่อทำบุญ ไหว้รอยพระพุทธบาท เดินขึ้นยอดเขา และสามารถเพิ่มแผนแวะเที่ยวหรือพักต่อได้ตามต้องการ
🚗 ประเภทรถตู้ให้เลือก:
รถตู้ VIP 9 ที่นั่ง (เบาะใหญ่ ปรับเอนได้)
รถตู้รุ่นใหม่ แอร์เย็น จอทีวี เครื่องเสียงครบ
มีพื้นที่เก็บสัมภาระ + ที่วางของทำบุญ
น้ำดื่ม / ทิชชู่ / เจลแอลกอฮอล์ ฟรี
👨✈️ คนขับเป็นมืออาชีพ:
แต่งกายสุภาพ ตรงเวลา
รู้เส้นทางขึ้นเขา-จุดจอดเปลี่ยนรถ 4×4 ของวัด
สามารถแนะนำสถานที่ทานอาหารหรือจุดพักได้
📍 จุดรับ–ส่ง:
รับจากที่พัก, สถานีรถไฟฟ้า, จุดนัดหมาย หรือสนามบิน (ทั้ง ดอนเมือง / สุวรรณภูมิ)
ส่งถึงจุดบริการรถขึ้นเขาคิชฌกูฏ (ของวัด)
🕑 ใช้เวลากี่ชั่วโมง?
เดินทางจากกรุงเทพฯ → เขาคิชกุฏ ประมาณ 4.5 – 5.5 ชั่วโมง
นิยมออกจากกรุงเทพฯตอนกลางคืน เพื่อไปถึงช่วงเช้า (ตี 3–4) ทันต่อคิวขึ้นเขา
📅 เดินทางได้ช่วงไหน?
เปิดให้ขึ้นเขา เฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์–เมษายนของทุกปี (โปรดเช็กวันที่แน่นอนในแต่ละปี)
บริการรถตู้ให้จองล่วงหน้าได้ตลอดปี (พร้อมแนะนำช่วงดีที่สุด)
💰 ราคาโดยประมาณ:
ประเภทการเดินทาง | ราคารถตู้ (ไป–กลับ) |
---|---|
ไป–กลับวันเดียว | เริ่มต้น 3,500 – 5,500 บาท (ขึ้นกับจุดรับ–ส่ง) |
พร้อมแวะเที่ยวต่อจันทบุรี | เริ่มต้น 5,900 – 7,500 บาท |
พักค้าง 1 คืน | เพิ่มเพียงค่าที่พัก+ค่าคนขับค้างคืน |
📌 ราคาขึ้นกับระยะทาง จุดรับ–ส่ง และจำนวนผู้โดยสาร
✅ เหมาะกับใคร?
กลุ่มทำบุญสายมู 3–10 คน
เดินทางเป็นครอบครัว, ผู้สูงอายุ, ผู้หญิงล้วน
หมู่คณะจากบริษัทหรือวัด
🎯 จุดเด่นบริการของเรา:
รับ–ส่ง ถึงหน้าบ้าน / คอนโด / สนามบิน
วางแผนเส้นทางให้ฟรี จัดเวลาให้เหมาะสมกับคิวขึ้นเขา
มีบริการแวะเที่ยว น้ำตกพลิ้ว, อ่างเก็บน้ำ คุ้งวิมาน ฯลฯ
บริการตลอด 24 ชม. เดินทางกลางคืนก็ได้
คนขับสุภาพ ปลอดภัย รถสะอาด พร้อมน้ำดื่ม-เจลล้างมือ
🏞 เปิดเขาคิชกุฏ ปี 2568 (2025) – เช็คให้ชัวร์ก่อนจองรถ!
กำหนดการเปิดอย่างเป็นทางการ
เปิดให้ขึ้นเขา ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม – 29 มีนาคม 2568 รวมเป็นระยะเวลา 60 วัน
พิธี บวงสรวง “ปิดป่า–เปิดเขา” จะจัดในวันที่ 27 มกราคม 2568 เป็นสัญญาณว่าพร้อมเปิดนักท่องเที่ยวแล้ว
⏰ เวลาการขึ้นเขา
สามารถขึ้นได้ ตลอด 24 ชั่วโมง (แบ่งเป็นช่วงๆ เพื่อจัดระบบคิวให้รองรับได้วันละประมาณ 6,000 คน)
รถรับ–ส่งเขาคิชกุฏช่วงเปิดเขา
มีบริการรถตู้ VIP จากกรุงเทพฯ / ที่พักต่าง ๆ
รถตู้ VIP พร้อมคนขับ ตั้งแต่ 5–10 ที่นั่ง เป็นตัวเลือกยอดนิยม เพราะเดินทางสะดวก นั่งสบาย และเหมาะกับกลุ่มสายบุญ
รับ–ส่งถึงจุดบริการก่อนขึ้นเขา เช่น วัดพลวง หรือวัดกะทิง ที่เป็นจุดที่รถเขาคิชกุฏของอุทยานออกบริการเท่านั้น (รถส่วนตัวไม่สามารถขึ้นเองได้)
วิธีเดินทางขึ้นเขาต่อจากจุดรับรถตู้
เมื่อถึงจุดรับ–ส่ง (เช่นหน้าวัดพลวง) ต้องต่อรถ 4×4 ของอุทยาน ขึ้นไปยังจุดจอดรถก่อนเดินต่อ
ค่าโดยสารรถขึ้นเขาคิชกุฏ ตามปี 2568 ประมาณ 200 บาท/คน (ไป–กลับ)
การจัดคิวขึ้นเขา
ต้องจองผ่านแอป KCKQue (ทั้ง iOS และ Android) เลือกช่วงเวลา เช่น เช้า กลางวัน หรือดึก
มี 4 ช่วงเวลาสำรองให้เลือก (00.00–06.00, 06.00–12.00, 12.00–18.00, 18.00–24.00)
สรุปภาพรวม
รายการ | รายละเอียด |
---|---|
เปิดเขา | 29 ม.ค. – 29 มี.ค. 2568 (พิธีปิดป่า–เปิดเขา 27 ม.ค.) |
⏰ เวลาเปิด | ตลอด 24 ชม. แบ่งตามช่วงเวลา |
รถตู้รับส่ง | รับจากกรุงเทพฯ / จุดนัดหมาย ไปยังจุดขึ้นเขา |
รถขึ้นเขา | ใช้รถ 4x4 ของอุทยาน 200 บาท/คน (ไป–กลับ) |
จองคิว | ผ่านแอป KCKQue ล่วงหน้า แนะนำให้จองก่อนเดินทาง |
ทำไมต้องจองรถล่วงหน้า?
เพราะในช่วงเปิดเขาสายบุญปีละไม่กี่ครั้ง การมีรถไว้ล่วงหน้าช่วยให้ทริปไม่ธรรมดา เรียบร้อย ปลอดภัย และเต็มไปด้วยคุณภาพ—คุณไม่ได้แค่ขึ้นเขาบุญ แต่คุณขึ้นเขา “อย่างไร้กังวล”
ต้องการให้จัดเป็นโบรชัวร์ ราคาแพ็กเกจ หรือหน้าเว็บหน้าเดียวสวย ๆ ที่รวมข้อมูลพร้อมจองได้เลย เดี๋ยวจัดให้แบบครบจัดเต็มครับ
🚐✨ บริการรถรับ–ส่งสายบุญ เขาคิชกุฏ + เที่ยวต่อจันทบุรี (One Day Trip / เหมาวัน / ค้างคืน)
✅ จุดเด่นของบริการ
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
1. สายบุญครบจบในทริปเดียว | นำท่านสักการะ รอยพระพุทธบาทเขาคิชกุฏ พร้อมแวะวัดดังในจันทบุรี เช่น วัดพลวง, วัดเขาวงกต, วัดไผ่ล้อม |
2. เที่ยวต่อได้เลย ไม่ต้องแยกวัน | หลังทำบุญ ขับต่อเที่ยวเมืองจันท์ เช่น ชุมชนริมน้ำจันทบูร, โบสถ์คาทอลิกพระแม่ immaculate, ทะเลหาดเจ้าหลาว, น้ำตกพลิ้ว |
3. เลือกแพ็กเกจได้ตามใจ | ไปเช้าเย็นกลับ / ค้างคืน / เที่ยว 2 วัน 1 คืน / เฉพาะทัวร์บุญก็ได้ หรือเที่ยวต่อทะเลก็ได้ |
4. รถมีให้เลือกหลากหลาย | รถเก๋ง, รถ SUV, รถตู้ VIP, รถกระบะดัดแปลง พร้อมคนขับมืออาชีพ บริการดี สุภาพ สะอาด ปลอดภัย |
5. จองง่าย – รองรับทั้งแบบเดี่ยวและหมู่คณะ | รับทั้งแบบส่วนตัว (1–3 คน), กลุ่มเล็ก (4–6 คน), หมู่คณะ (7–15 คน) |
6. มีไกด์ผู้ช่วย หรือผู้ดูแลตามขอ | หากต้องการคนช่วยดูแลสายบุญ–สายเที่ยว มีบริการเพิ่มเติมให้ (แจ้งล่วงหน้า) |
📍 เส้นทางแนะนำ (ตัวอย่าง)
Day Trip
03:00 น. ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ
06:00 น. ถึงวัดพลวง จองคิวขึ้นเขาคิชกุฏ
06:30–11:00 น. ขึ้นรถอุทยาน 4×4 + เดินเท้าสักการะรอยพระพุทธบาท
11:30 น. แวะวัดดังรอบเมืองจันทบุรี / รับประทานอาหารกลางวัน
13:00 น. เที่ยว ชุมชนริมน้ำจันทบูร + โบสถ์พระแม่ immaculate
15:00 น. ช้อปของฝาก ตลาดพลอย
16:00 น. เดินทางกลับกรุงเทพฯ
20:00 น. ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
(เส้นทางปรับได้ตามความสะดวกและความศรัทธาของลูกค้า)
💰 แพ็กเกจและราคา (ตัวอย่าง)
ประเภท | รายละเอียด | ราคาเริ่มต้น |
---|---|---|
รถเก๋ง 1–3 คน | เหมาวัน, คนขับพร้อมรอ, รวมค่าน้ำมัน | 3,500–4,500 บาท |
รถตู้ VIP 6–9 คน | เหมาวัน, คนขับพร้อมรอ, รวมค่าน้ำมัน | 5,500–6,900 บาท |
รถ SUV / 7 ที่นั่ง | เหมาวัน, เหมาะสำหรับทริปบุญ+เที่ยว | 4,500–5,500 บาท |
เสริมเที่ยว + พัก 1 คืน | มีโรงแรม / ที่พักให้เลือกเพิ่มเติม | +1,000–2,500 บาท/คน |
🎯 เหมาะกับใคร?
กลุ่มครอบครัวอยากไหว้พระ + เที่ยวพักผ่อน
คณะบุญ, กลุ่มเพื่อน, หรือคนสูงอายุที่ต้องการเดินทางสบาย
องค์กร/บริษัทที่ต้องการจัดทริปให้พนักงาน
คนไม่มีรถ หรืออยาก “ไปอย่างมืออาชีพ–ไม่เหนื่อยขับเอง”
🌿 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เขาคิชกุฏ จังหวัดจันทบุรี
แน่นอนครับ! หากคุณเดินทางไป “เขาคิชกุฏ” แล้วอยากเที่ยวต่อใกล้ ๆ แบบ ครบทั้งธรรมชาติ + วัด + ของกิน + ชุมชนเก่า เรารวบรวมมาให้ครบแบบละเอียด พร้อมวางแผนทริปต่อได้ทันที 👇
🧘♂️ 1. วัดพลวง (วัดพระบาทพลวง)
จุดขึ้นเขาคิชกุฏอย่างเป็นทางการ
มีพระอาจารย์ชื่อดัง และลานรอขึ้นรถ 4×4 ไปบนเขา
ภายในวัดสงบร่มรื่น เหมาะแก่การทำบุญและรอคิวขึ้นเขา
🪵 2. น้ำตกกระทิง
อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาคิชกุฏเช่นกัน
เป็นน้ำตกชั้นเล็ก ๆ ต่อเนื่อง สวยงาม เหมาะสำหรับแวะก่อนหรือหลังขึ้นเขา
มีจุดเล่นน้ำ เดินป่าระยะสั้น ถ่ายรูปธรรมชาติ
🏘️ 3. ชุมชนริมน้ำจันทบูร
ชุมชนเก่าแก่กว่า 100 ปี
เต็มไปด้วยบ้านไม้สมัยโบราณ คาเฟ่สวย ๆ ร้านของฝาก และภาพวาด Street Art
เดินเล่น ชิมอาหารพื้นบ้าน หรือเช่าจักรยานปั่นเพลิน ๆ ก็ได้
⛪ 4. อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล
โบสถ์คริสต์ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
มีสถาปัตยกรรมโกธิคสวยงามมาก
จุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทุกวัย
ตั้งอยู่ใกล้ชุมชนริมน้ำ เดินถึงกันได้ง่าย ๆ
💎 5. ตลาดพลอยจันทบุรี
แหล่งซื้อ–ขายพลอยแท้ชื่อดังของเมืองจันท์
มีร้านรับทำเครื่องประดับ, ตรวจสอบพลอย, และให้ความรู้เกี่ยวกับอัญมณี
เหมาะกับสายของฝากระดับพรีเมียม
🌊 6. หาดเจ้าหลาว
หาดทรายสีนวล น้ำทะเลใส เล่นน้ำได้ พักผ่อนได้
มีร้านอาหารทะเลสด ๆ เรียงรายริมหาด
ขับรถจากเขาคิชกุฏประมาณ 1 ชั่วโมง
🌳 7. น้ำตกพลิ้ว
น้ำตกขึ้นชื่อของจันทบุรี ใสเย็น น้ำแรง
ปลาพลวงจำนวนมากว่ายให้เห็นชัด ๆ
มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ อากาศดีตลอดปี
🍽️ 8. ร้านอาหารแนะนำในเส้นทาง
ปูจ๋า ท่าแฉลบ: ซีฟู้ดขึ้นชื่อ
ร้านจันทรโภชนา: อาหารพื้นบ้านจันทบุรี
ตลาดน้ำพุ / ตลาดใต้: รวมอาหารพื้นเมือง, ขนมโบราณ, ผลไม้เมืองจันท์
✨ เส้นทางแนะนำ:
ไหว้พระ + ขึ้นเขาคิชกุฏ (เช้า) → น้ำตก / ชุมชนริมน้ำ (เที่ยง) → โบสถ์คริสต์ / ตลาดพลอย (บ่าย) → หาดเจ้าหลาว / ร้านอาหาร (เย็น)
🏞️ ขึ้นเขาคิชกุฏปีนี้ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?
การขึ้น เขาคิชกุฏ ปี 2568 (หรือปี 2025) เป็นโอกาสสำคัญที่สายบุญทั่วประเทศรอคอย เพราะเป็น “เส้นทางแสวงบุญครั้งเดียวในรอบปี” ที่เชื่อกันว่าหากได้ไปกราบ “รอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชกุฏ” จะเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิต
เพื่อให้การเดินทางราบรื่น ปลอดภัย และได้บุญเต็มที่… นี่คือ คู่มือเตรียมตัวขึ้นเขาคิชกุฏฉบับละเอียด ปี 2568 พร้อมเทคนิคเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้!
📌 1. รู้กำหนดเปิด–ปิดก่อน
เขาคิชกุฏจะเปิดเพียงปีละครั้งเท่านั้น
โดยปกติจะอยู่ช่วง ปลายเดือนมกราคม – ต้นเมษายน
ปี 2568 คาดว่าจะเปิดให้ขึ้นเขา ประมาณต้นกุมภาพันธ์ ถึงต้นเมษายน (ต้องรอประกาศทางการอีกครั้ง)
⏰ เปิดขึ้นเขาตั้งแต่ เย็น–ค่ำ จนถึง เช้าตรู่วันถัดไป
💡 แนะนำให้จองรถล่วงหน้า และเลือกเดินทางวันธรรมดาเพื่อเลี่ยงคนเยอะ
🚐 2. เลือกรถเดินทาง
รถส่วนตัว หรือใช้บริการ เช่ารถพร้อมคนขับ จะสะดวกมาก เพราะ:
ไปถึงจุดขึ้นรถโดยไม่ต้องเปลี่ยนคัน
ได้คนขับที่ชินทาง และแนะนำจุดแวะพักได้
จุดขึ้นเขาจะต้องเปลี่ยนเป็น รถ 4×4 เท่านั้น (ให้บริการเฉพาะบนเขาโดยทีมงานวัด)
🚙 ค่าโดยสารประมาณ 200–250 บาท/คน (ไป–กลับ)
🎒 3. ของที่ควรเตรียม
ของจำเป็น | เหตุผล |
---|---|
🔦 ไฟฉาย / ไฟคาดหัว | เส้นทางบนเขามืด ไม่มีไฟฟ้า |
👟 รองเท้าผ้าใบ / เดินป่า | เดินขึ้นลงเขา 6–7 กม. |
🧥 เสื้อกันลม / ผ้าคลุม | บนเขาหนาว มีลมแรง |
💧 น้ำดื่ม + ขนมเล็กน้อย | ระหว่างทางไม่มีร้านค้า |
🧘 ผ้าถุง / ผ้าคลุมสุภาพ | แต่งกายเรียบร้อยเข้าวัด |
💊 ยาดม / พลาสเตอร์ | ป้องกันหน้ามืด / พอง |
❗ ห้ามแต่งกายโป๊ / ใส่กางเกงขาสั้น / ใส่เสื้อไม่มีแขน เด็ดขาด จะไม่ได้รับอนุญาตขึ้นเขา
✨ 4. เทคนิคสายบุญ / สายเที่ยว
เดินขึ้น “กลางคืน” ถึงยอดตอนเช้า แสงพระอาทิตย์กำลังขึ้น
→ เหมาะกับสายบุญ + ชอบบรรยากาศเงียบ สว่างพอดี
เลือกขึ้น “กลางวัน” ถึงช่วงเย็น
→ เหมาะกับผู้สูงอายุ / เดินง่าย แต่คนเยอะ
🙏 5. สิ่งที่ต้องรู้
เส้นทางเดินเขา มีระยะประมาณ 6–7 กิโลเมตร
→ ใช้เวลาเดิน 2–4 ชั่วโมง ขึ้นกับความฟิต
ไม่มีห้องน้ำบนยอดเขา
→ ควรทำธุระให้เรียบร้อยก่อนเดินขึ้น
มี จุดพัก / จุดปฐมพยาบาล ตลอดเส้นทาง
มีคนดูแล ผู้สูงอายุสามารถขึ้นได้ (แต่ต้องมีคนพา)
🧭 6. ทริปต่อยอด: เที่ยวต่อหลังทำบุญ
เที่ยว น้ำตกพลิ้ว, ชุมชนริมน้ำจันทบูร, โบสถ์คริสต์, หาดเจ้าหลาว
ใช้บริการ เหมารถเที่ยว + เช่ารถพร้อมคนขับ
→ วางแผนได้ยืดหยุ่น, ไปต่อได้หลายจุด, ไม่เหนื่อยขับเอง
🎯 แพ็กเกจแนะนำ (ไป–กลับวันเดียว)
เดินทางเย็น – ถึงยอดตอนเช้า – กลับเที่ยง / บ่าย
มีบริการครบ: รับ–ส่งถึงบ้าน, มีคนนำทาง, รถ VIP, น้ำดื่ม, จุดแวะพัก
เหมาะสำหรับทั้งบุคคลทั่วไป / คณะบริษัท / ผู้สูงอายุ